|
|
|
|
|
|
การพัฒนาในหน่วยควบคุมภายใน
หน่วยควบคุมภายในมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มจัดตั้งหน่วยงาน เดิมระบบการคิดค่ารักษาพยาบาลเป็นการคิดแบบ manual โดยใช้เครื่องคิดเลขธรรมดา ต่อมาจึงมีแบบฟอร์มให้หน่วยงานที่ทำกิจกรรมเป็นผู้บันทึกข้อมูลและส่งมาให้หน่วยควบคุมภายในคิดค่ารักษา หลังจากนั้นจึงมีการนำระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้ประมวลผลแทนเครื่องคิดเลข และพัฒนาระบบการคิดค่ารักษาพยาบาลเป็นแบบreal time เช่นในปัจจุบัน
การบริการของหน่วยควบคุมภายในระยะแรกเป็นการดำเนินงานเฉพาะเกี่ยวกับรายได้จากการรักษาพยาบาลของผู้ป่วยในก่อน หลังจากนั้นจึงขยายขอบเขตออกไป เริ่มแรกทำงานเฉพาะเวลา 0800-1600 ทุกวันราชการ โดยคิดค่ารักษาจากการตรวจสอบข้อมูลการรักษาในเวชระเบียนผู้ป่วยในทุกฉบับ แล้วสรุปค่ารักษาทั้งหมดให้แก่หอผู้ป่วย ต่อมาจึงเริ่มมีการจัดเวรล่วงเวลาเฉพาะวันเสาร์และต่อมาจึงมีเวรในวันอาทิตย์ด้วย
ในปี 2547 ได้เริ่มใช้ระบบคอมพิวเตอร์ ( e-claim) สำหรับค่าใช้จ่ายในส่วนของห้องจ่ายยา ซึ่งต่อมาจึงได้ใช้ระบบคอมพิวเตอร์นี้ลงข้อมูลค่าใช้จ่ายทางพยาธิกรรม ค่าห้องค่าอาหาร กิจกรรมบนหอผู้ป่วย และกิจกรรมของห้องตรวจผู้ป่วยนอกตามลำดับ ระบบคอมพิวเตอร์ (e-claim) สามารถทำงานควบคุมภายในได้สมบูรณ์ในเดือนมกราคม 2548 และต่อมาได้เปลี่ยนระบบคอมพิวเตอร์ทดแทนที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น จึงได้เริ่มใช้ระบบใหม่ในวันที่ 28 ธันวาคม 2550 และได้พัฒนาให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น เพิ่มรายละเอียดของข้อมูลการรักษาทำให้สามารถสืบค้นข้อมูลการมารับบริการของผู้ป่วยได้มากขึ้น และสามารถตรวจสอบการค้างชำระค่ารักษาและรายงานยอดค้างชำระได้อย่างละเอียด สามารถเจาะจงหน่วย และเจาะจงสิทธิได้ด้วย
สิ่งที่หน้าภาคภูมิใจของหน่วยควบคุมภายในก็คือผลจากการปฏิบัติงานทำให้สามารถเพิ่มรายได้ให้แก่โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดชได้ถึง 200 ล้านบาทในปีแรก และช่วยลดภาระงานของพยาบาลประจำหอผู้ป่วยลงได้มาก ในปัจจุบันการตรวจสอบค่ารักษาของผู้ป่วยในมีความแม่นยำถูกต้องมากขึ้น พบความผิดพลาดเพียง 0.41% ในปี 2551 ..
|
|
|
จำนวนทั้งหมด 1 ย่อหน้า หน้า
[
1 ]
|
|
|
|
|
|
|
|