โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ
documentation    Health for Future
สื่อประสมที่เกี่ยวข้อง
เว็บไซ์ืที่เกี่ยวข้อง


รู้จักกะหล่ำดอก (Cauliflower) อีกซักนิด

เวลาที่เราซื้อกะหล่ำมาจากตลาด แน่นอนผักออแกนิค(ปลอดสารพิษ) มันไม่ได้ขายกันทุกตลาดฉะนั้นทางที่ดีที่สุด ล้างให้สะอาดก่อนเพราะลักษณะของกะหล่ำปลีอาจจะทำให้เก็บยาฆ่าแมลงไว้ได้มาก อาจใช้น้ำผสมเกลือหรือน้ำช้มสายชูล้าง จะทำให้ชำระล้างสารพิษได้มาก



ในกะหล่ำดอก 100 กรัม มี

1) วิตามินซี 56 มิลลิกรัม ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันและมีบทบาทสำหรับต่อการสังเคราะห์คอลลาเจน
2) แคลเซียม 22 มิลลิกรัม และ
3) ฟอสฟอรัส 23 มิลลิกรัม ช่วยเสริมความแข็งแรงให้แก่กระดูกและฟัน
4) ให้พลังงานเพียง 13 กิโลแคลอรี จึงเป็นผักที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
5) มีสารกลูโคซิโนเลต (Glucosinolate) ช่วยลดอาการอักเสบและอาจมีฤทธิ์ป้องกันมะเร็งเต้านม
6) สารซัลโฟราเฟน (Sulforaphane) ช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่และภาวะหลอดเลือดอุดตันอีกด้วย

#คุณค่าของกะหล่ำปลี

กะหล่ำปลี ลักษณะใบของกะหล่ำปลี หรือที่คนชอบเรียก ดอกกะหล่ำนอกจากนำมากินเป็นผักสด หรือประกอบอาหารแล้ว ในคุณค่าความเป็นสมุนไพรไทยของมันยังมีอีกเพียบ ขอแยกเป็นข้อๆปล้องๆดังนี้

1) มีวิตามินซีสูง
ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีงานวิจัยออกมาว่า กะหล่ำปลีสีเขียว จะสามารถป้องกันมะเร็งลำไส้ในผู้ชายได้สูงถึงร้อยละหกสิบหก ( 66 เปอร์เซ็นต์)อีกด้วย และนอกจากนี้วิตามินซียังสามรถป้องกันโรค เลือดออกตามไรฟัน ช่วยย่อยอาหารและล้างสารพิษ

2) มีใยอาหารหรือไฟเบอร์สูง
จะช่วยกระตุ้นระบบการย่อยอาหาร กระตุ้นลำไส้ใหญ่ ช่วยในเรื่องระบบขับถ่ายได้เป็นอย่างดี

3) มีกรดทาร์ทาริก *
ช่วยยับยั้งไม่ให้แป้งและน้ำตาลจากอาหารที่เรารับประทานเข้าไป เปลี่ยนกลายเป็นไขมันส่วนเกิน สะสมอยู่ตามร่างกาย จึงเหมาะมากๆกับคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก

*เพิ่มเติมข้อมุลนิดนึงนะครับ กรดตาร์ตาริก (tartaric acid) คือ กรดอินทรีย์ (organic acid) พบตามธรรมชาติในผักผลไม้ และเป็นกรดที่พบในไวน์ มีสูตรทางเคมีคือ C4H6O6 อยู่ในรูป L-Tartaric acid อาจเรียกว่า L-2-3-Dihydroxysuecinic acid หรือ L-2,3-Dihydroxybutanedioic (ข้อมูลจากจากสารานุกรมอาหาร)

4) อุดมไปด้วยแคลเซียมและฟอสฟอรัส
ที่ทีส่วนสำคัญในเรื่องของการสร้างกระดูกและฟัน ซึ่งยิ่งแก่ตัวไป หรือเด็กๆ ยิ่งจำเป็นมากๆ

5) มีสารซัลเฟอร์
สารตัวนี้จะช่วยระงับประสาท ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย จึงทำให้นอนหลับดีขึ้นนั่นเอง

6) มีสารต้านการอักเสบ
ต้านการอักเสบของแผลในกระเพาะและลำไส้ ช่วยกระตุ้นให้เซลล์ที่ทำหน้าที่บุเยื่อกระเพาะสร้างสารคัดหลั่งเพื่อช่วยเคลือบผิวทางเดินอาหาร จึงป้องกันโรคกระเพาะและลำไส้ได้ ไม่แปลกเลยที่ส้มตำเผ็ดๆ หรืออาหารที่มีรสเผ็ดคนโบราณจึงให้นิยมทานกับกะหล่ำ

7) บรรเทาอาการปวดคัดตึงเต้านมได้
สำหรับสาวๆแล้ว กะหล่ำปลีสามารถบรรเทาอาการปวดคัดตึงเต้านมได้อีกด้วย โดยใช้กะหล่ำปลีมาประคบเต้านมข้างละใบ (คิดว่าคงพอเพียงกับขนาดหญิงไทยมาตรฐาน) และใช้ผ้าพันไว้ 20 โดยไม่ต้องนวดคลึงอาคารปวดบวมคัดตึงจะหายไปเอง

#ข้อควรระวังในการใช้กะหล่ำปลี

เวลาที่เราซื้อกะหล่ำมาจากตลาด แน่นอนผักออแกนิค(ปลอดสารพิษ) มันไม่ได้ขายกันทุกตลาดฉะนั้นทางที่ดีที่สุด ล้างให้สะอาดก่อนเพราะลักษณะของกะหล่ำปลีอาจจะทำให้เก็บยาฆ่าแมลงไว้ได้มาก อาจใช้น้ำผสมเกลือหรือน้ำช้มสายชูล้าง จะทำให้ชำระล้างสารพิษได้มาก

-------------------------------------------------------------------------------------------------------
 
Thanks : Green Shop
            : Be Healthy

  Hits: 4834 [Rate it.]  

    เนื้อหาในหมวดนี้  
 
 อาการและระยะแพร่เชื้อโรคฝีดาษวานร (29/1/2567)
 ฝุ่น PM2.5 ภัยร้ายใกล้ตัว ที่ไม่ควรมองข้าม (22/1/2567)
 8 วิธีรับมือภาวะซึมเศร้าซ่อนเร้นด้วยตัวเอง (11/1/2567)
 โรคและภัยสุขภาพที่เกิดในช่วงฤดูหนาวของประเทศไทย (21/12/2566)
 ไข้หวัดใหญ่ (Influenza) (18/12/2566)
 โรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ (5/10/2566)
 RSV ตัวร้าย อันตรายช่วงปลายฝนต้นหนาว (19/9/2566)
 โรคน้ำกัดเท้า โรคผิวหนังที่มากับน้ำท่วม (18/9/2566)
 ข่าวจริง ชัวร์แล้วเเชร์ได้ (18/8/2566)
 คนอ้วนมีโอกาสเสี่ยงเป็นไข้เลือดออกรุนแรงกว่าคนน้ำหนักปกติ (4/8/2566)
จำนวน 394 เนื้อหาทั้งหมด หน้าที่   [ 1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  >  >>  ... ]  
  เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง  
สื่อประสมที่เกี่ยวข้อง