โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ
documentation    ข่าวประชาสัมพันธ์หน่วย   หน่วยสุขศึกษา   สาระน่ารู้


ลิ้นจี่..ยับยั้งเซลล์มะเร็ง รักษาตับ-ต้านอนุมูลอิสระ
'ลิ้นจี่' มีสรรพคุณทางยา ตามที่ใช้ในประเทศจีนนับมาแต่โบราณ เนื้อในผลกินเป็นยาบำรุง แก้อาการไอเรื้อรัง แก้อาการคัดจมูก รักษาอาการท้องเดิน ลดกรดในกระเพาะอาหาร และบรรเทาอาการไม่ปกติของระบบทางเดินอาหาร


      จีนใช้เปลือกผลลิ้นจี่ทำเป็นชา ใช้ชงเพื่อบรรเทาอาการหวัด แก้การติดเชื้อในลำคอ อาการท้องเสียอย่างอ่อน และโรคจากการติดเชื้อไวรัส ตำรายาจีนกล่าวเฉพาะเมล็ดลิ้นจี่ว่า มีรสหวาน ขมเล็กน้อย สรรพคุณอุ่น ทำให้พลังชี่ขับเคลื่อน ลดอาการปวด ใช้กรณีปวดท้อง ปวดไส้เลื่อน ปวดบวมของอัณฑะใช้ขนาด 5-10 กรัม โดยมักผสมกับสมุนไพรอื่นอีกหนึ่งหรือสองชนิด เมล็ดลิ้นจี่ที่แห้ง ควรนำมาบด คั่วให้แห้งโดยผสมด้วยน้ำเกลือ แล้วจึงเติมน้ำลงไปต้ม น้ำดื่ม หรือทำเป็นผง รับประทานหรือใช้ผงยาพอกบริเวณมีอาการปวดบวม รากลิ้นจี่หรือเปลือกต้นใช้แก้อาการติดเชื้อไวรัส อีสุกอีใส และเพิ่มความสามารถระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย

     รศ.ดร.ภญ.พาณี ศิริสะอาด คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) วิจัยพบสารสกัดเมล็ดด้วยน้ำขนาด 0.6 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ให้แก่ผู้ที่เป็นพาหะโรคไวรัสตับชนิดบี ใช้ได้ผลดีในการยับยั้งเอนไซม์ตับที่สูงขึ้น

     เปลือกมีสารกลุ่มฟลาโวนอลที่สำคัญคือ โพรไซยาไนดินบี 4 ไพรไซยาไนดินบี 2 และอีพิคาเทชิน ส่วนที่สำคัญคือ ไซยาไนดิน-3-รูตินโนไซด์ ไซยาไนดิน-3 กลูโคไซด์ เควอเซทิน -3-รูติโนไซด์ และเควอเซทิน-3-กลูโคไซด์ มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูง และสารสกัดเปลือกยังมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญของเซลล์มะเร็งเต้านม ทั้งในห้องทดลองและในสัตว์ทดลอง โดยยับยั้งการขยายจำนวนเซลล์ การควบคุมการสื่อสารระหว่างเซลล์มะเร็ง และเหนี่ยวนำให้เกิดการตายของเซลล์มะเร็ง

     สารสกัดลิ้นจี่ลดขนาดเนื้องอกในสัตว์ทดลอง แต่ไม่ได้ระบุว่าเป็นสารสกัดส่วนใดของลิ้นจี่ สำหรับงานวิจัยนักวิทยาศาสตร์ของไทย พบว่าสารสกัดผลลิ้นจี่มีฤทธิ์ในการปกป้องตับ ในหนูที่เหนี่ยวนำให้ได้รับสารพิษและเป็นโรคตับ

      ผลการใช้ลิ้นจี่และผลวิจัยจากสารสกัดลิ้นจี่ แสดงศักยภาพของลิ้นจี่ ไม่เพียงแต่มีรสอร่อย แต่ยังมากด้วยคุณค่าทางยา อย่างไรก็ตามเนื้อผลลิ้นจี่ยังมีสารประกอบที่พบในการวิจัยและคาดว่าเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการร้อนในได้ การรับประทานลิ้นจี่มากเกินไปอาจเกิดอาการดังกล่าวได้ ควรรับประทานอาหารหลากหลาย โดยเฉพาะอาหารรสเย็น เพื่อให้เกิดความสมดุล


  Hits: 3308 [Rate it.]  

    เนื้อหาในหมวดนี้  
 
 แจ้งเตือนโรคระบาดในช่วงปลายฝนต้นหนาว (14/12/2558)
 โรคไข้เลือดออก (14/12/2558)
 บันได...เปลี่ยนชีวิต (16/11/2558)
 ออกกำลังกายยามเช้า ลดน้ำหนักได้มากกว่า (15/10/2558)
 ประโยชน์คับแก้วไปกับ เเก้วมังกร (23/9/2558)
 ทำแบบนี้สิ ไขมันไม่พุ่ง หลังปีใหม่ (23/9/2558)
 7 พฤติกรรมทำแล้วอายุสั้น (23/9/2558)
 ง่าย ๆ ที่คุณทำได้!! 6 วิธีลดคอเลสเตอรอล (23/9/2558)
 ตะขบ สุดยอดผลไม้ไทย (23/9/2558)
 5 อาหาร ควรรู้ ยิ่งกิน ยิ่งแก่ (23/9/2558)
จำนวน 99 เนื้อหาทั้งหมด หน้าที่   [ 1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  >  >> ]